เนื่องจากในปัจจุบันนี้ ตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้าจนกระทั่งเข้านอน เราใช้สายตาตลอดเวลา และมีการใช้สายตาเพิ่มมากขึ้น ในปัจจุบันนี้เนื่องจากจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์ไอที เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน ต้องเกี่ยวข้องกับโลกของโซเชียล ออนไลน์ ดูจอคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน โทรทัศน์ เพิ่มมากขึ้น เมื่อใช้สายตามากขึ้นเกินกว่าที่ดวงตาของเราจะรับไหว จึงเกิดโรค CVS (Computer Vision Syndrome) กันมาก ทำให้เกิดอาการปวดตา เมื่อยตา ตามัว มองเห็นภาพซ้อน ตาแห้ง แสบตา แม้ว่าเราจะทราบวิธีป้องกันโรค CVS จากการปรับเปลี่ยนวิธีและสร้างนิสัยในการดูแลถนอมดวงตา เช่น ไม่ใช้สายตามากเกินไปในการเพ่งมองจอคอมพิวเตอร์ แต่ถ้าไม่มีวินัยที่ดีพอในการดูแลป้องกันก็หลีกเลี่ยงโรค CVS ได้ยากเช่นกัน ด้วยเหตุนี้นักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยระดับโลกจึงพยายามค้นคว้าและวิจัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อค้นหาสาระสำคัญที่สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของดวงตาเรา ในที่สุดก็ค้นพบสารประกอบและผลไม้จากธรรมชาติหลากหลายชนิด ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่ามีประโยชน์ในการบำรุงดวงตาช่วยให้ดวงตาของเรามีประสิทธิภาพในการมองเห็นได้ดีขึ้น มีดังต่อไปนี้
Lutein and Zeaxanthin (ลูทีน และ ซีแซนทีน)
เป็นสารธรรมชาติจัดอยู่ในกลุ่มแคโรทีนอยด์ มีมากในผัก ผลไม้ที่มีสีเหลืองและสีเขียวเข้ม เช่น ข้าวโพด ผักกาด ผักปวยเล้ง
คะน้า ผัดโขม ทั้งลูทีนและซีแซนทีน มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสสระ ซึ่งสามารถลดความเสี่ยงในโรคที่เกิดจากการมีสารอนุมูลอิสสระสูงได้ เมื่อตาได้รับแสงมากเกินไปจะก่อให้เกิดการสร้างอนุมูลอิสระในกระจกตาและจอตาได้ ทำให้เกิดออกซิเดชั่น ของโปรตีนและไขมันในเลนส์ตา ทำให้เลนส์ตาเสื่อมลงก่อให้เกิดโรคต้อกระจกตามมา จึงเป็นเหตุผลที่ชัดเจนว่า ทำไมสารลูทีนและซีแซนทีน จึงสามารถลดความเสี่ยงของโรคต้อกระจกและโรคของจอตา หรือที่เรียกว่าจอรับภาพเสื่อม มีการวิจัยวัดระดับของลูทีน และซีแซนทีนในกระแสเลือดพบว่า การมีระดับของลูทีนและซีแซนทีนในกระแสเลือดสูงจะมีเลนส์ตาที่ใสกว่า มีความสามารถในการมองเห็นดีกว่า และจอรับภาพสามารถรับภาพได้ชัดกว่า ดังนั้นลูทีนและซีแซนทีน จึงช่วยบำรุงสายตา เหมาะกับผู้ใช้สายตามาก ผู้สูงอายุ ผู้ที่ทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ หรืออยู่กับแสงสว่างจ้าเป็นเวลานาน ผู้ที่ต้องขับรถเวลากลางคืน ผู้ที่โดนแฟลชหรือดูทีวีเป็นเวลานาน
Vitamin A (วิตามินเอ)
วิตามินเอเป็นส่วนประกอบสำคัญของ Cornea มีหน้าที่ช่วยในการมองเห็น ช่วยให้สายตาสามารถปรับสภาพในที่มืดได้ดีโดย
เฉพาะเวลาที่มีแสงน้อย Retinol หรือวิตามินเอ จะรวมตัวกับโปรตีนชื่อ Opsin (ออพซิน) เป็นสารประกอบ Rhodopsin (โรดอพซิน) ซึ่งมีคุณสมบัติดูดแสงและปรับสายตาให้มองเห็นชัดขึ้น สารประกอบนี้จะสลายไปเมื่อถูกใช้ไปในระยะเวลาหนึ่ง ดังนั้นการได้รับวิตามินเอที่เพียงพอจะช่วยสร้างสารโรคอพซินได้มากขึ้น จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง หากขาดวิตามินเอจะทำให้มองเห็นได้ยากในที่มืด นอกจากนี้ยังทำให้เยื่อบุตาแห้ง กระจกตาเป็นแผล
Goji Berry (โกจิเบอร์รี่)
เป็นผลไม้ตะกูลเบอร์รี่มีสีแดง ลักษณะเป็นเมล็ดเล็กๆ จากงานวิจัยพบว่า Goji Berry มี Luteinและ Zeaxanthin สูงมาก จึงช่วยบำรุงสายตาและป้องกันความเสื่อมของตาได้เป็นอย่างดี
Bilbery (บิลเบอร์รี่) และ Raspberry (ราสพ์เบอร์รี่)
เป็นผลไม้ที่มีสารแอนโธไซยานินสูง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็นในที่มืด ช่วยลดระยะเวลาในการปรับแสงจากสว่างไปสู่ที่มืดหรือที่มีแสงสลัวได้เร็วขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเอนไซม์หลายชนิดที่อยู่ภายในจอประสาทตา (Retina) ทำให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น ช่วยป้องกันจอประสาทสำหรับผู้ที่ต้องเผชิญกับแสงสว่างจ้ามากๆ เช่นแสงแฟลช ซึ่งสามารถทำลายจอประสาทตาจนอาจทำให้ตาบอดได้ สามารถป้องกันโรคต้อหิน ต้อกระจกได้ ช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปยังหลอดเลือดที่ดวงตานอกจากนี้ ยังช่วยคงระดับสารโรดอพซินในดวงตาที่อาจลดลงในช่วงเวลาที่มีการใช้สายตาเป็นเวลานาน
Blueberry (บลูเบอร์รี่)
สารสกัดจากบลูเบอร์รี่สามารถรักษาเซลล์ม่านตาและสามารถป้องกันบรรเทาอาการปวดตา ส่งเสริมการมองเห็น ป้องกันและปรับปรุงอาการตาแห้งและป้องกันโรคต้อหิน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องใช้สายตามากๆ นักเรียน นักศึกษาและผู้ใช้คอมพิวเตอร์หรือผู้ป่วยเกี่ยวกับโรคของสายตา
เมื่อเรารู้คุณค่าของสารต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อดวงตาของเราแล้ว หากเราอยากดูแลและถนอมดวงตาของเราให้มีประสิทธิภาพใช้งานได้ดีตลอดไป ควรรับประทานอาหารเสริมที่มีสารประกอบเหล่านี้ต่อเนื่อง จะช่วยป้องกันโรค CVS และโรคเสื่อมของตาอื่นๆ ทั้งยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็นได้เป็นอย่างดีอีกด้วย